วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558

5 เยียวยาแผลเป็นน้องเบส

น้องเบส มีแผลเป็นที่หน้า ใครไม่รู้ทำร้ายน้องเบสได้
แต่ น้องเบสอายุ 14 มีแผลแค่นี้นับว่า ธรรมด๊า ธรรมดา
แต่มาอยู่ในมือพี่คนบ้าแล้ว ปล่อยไปไม่ด๊ายยยยยย
 เลยหาข้อมูลเกี่ยวกับการซ่อม ก็ได้จาก เวบนี้

http://www.stormclub.com/webboard/topic.php?id=00000051

พี่แกใช้ก้นบุหรี้ กะกาวช้าง

อันนี้ใช้ผ้า แถมเทคนิคสีด้วย

http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2009/10/V8479713/V8479713.html

อันนี้ ใช้เรซิ่นเยย

http://www.cefiro-thailand.com/showthread.php?t=13742

อันนี้กาวร้อยกับ แฟ้บ บระเจ้าา

http://www.2strokeclub.com/smf/index.php?topic=97350.new

และเม้นนึงในบอร์ดนี้
อันนี้น่าสนเลย เพระาเบื่อเหลือเกินกะไอ้กาวร้านสารพัดสูต ซึ่งลองมาหมดแล้ว กับการเชื่อมชินพลาสติกที่หักออกจากกันแบบเด็ดขาด 
    - ทั้งหยอดกะก้นบุหรี่(อันนี้ทนนานดีมาก)
    - หยอดกะเศษเสื้อหรือผ้าที่เป็นผ้าโปโล(เพื่อใหเได้ความแข็งแรงจากเส้นใย  อันนี้อยู่ทน แต่ไม่ค่อยสวย เพระาเสื้อมันหนา แข็งมาก)
    - สำลีกะกาวร้อน  (อันนี้ไม่ทนเลย  ใช้ไม่นาน ก้แตกหักเพราะสำลีโดนน้ำโดนความชื้นบ่อยๆเปื่อยอีก  กำไม่มีเส้นใยมายึดติดกัน  )
    - กะผงซักฟอก ลองแล้วไม่เวริคอย่างแรง ใส่ไปแป๊บเดียว แข็งแป๊บเดียว วิ่งเดินทางไม่พอร้อยกิโล แตกหักเพระามันไม่มีเส้นใยมายึดติด มีแต่ไอ้ผงที่มันแข็งๆ มาประสานแทน) 
      แต่กับน้ำยาเชื่อมพลาสติกอัดกรอบพระผมไม่เคยทราบเลยจริงว่ามันมี เพระาไม่ได้สนใจเล่นพระ ต้องขอขอบใจพี่อ๊อดนะครับ ที่มาแนะนำ +1 แรงม้าครับ

แม่มสารพัดวิธี เอาไงดี
น่าจะดีหมดมั้ง เอาที่อุปกรณ์เอื้ออำนวยดีก่า

มีตังอยู่ 25 บาท ซื้อกาวช้างได้แค่นั้นแหละ

       ว่าแล้วก็หักรอยต่อเดิมที่ไม่เนียน เอาคัตเตอร์ขูดกาวเก่าทิ้ง กระดาษทรายถูนิดหน่อย แล้วก็เอากาวช้าง ติดให้เข้าที่ที่สุด


       หลังจากนั้นไปหาโฟม จำได้ว่าโฟมมันละลายกะกาวช้างได้ เลยไปเดินข้างทาง เห็นถ้วยโฟมทิ้งไว้ ไม่รู้กี่ปีถูกฝนล้างจนสะอาดละ มันย่อยสลายยากจุงเบยยยย

        หลังจากนั้นก็ฉีกโฟมวางบนรอยต่อ ด้านนอก หยอดกาวช้าง ให้มันละลายถมรอยแตกให้เต็ม จนล้นปูดออกมาเลย ทำไปเรื่อยๆตลอดแนวแตก

        ด้านใน มันไม่ต้องสวย เลยเอาก้นบุหรี่ โปะ กาวช้างหยอด ควันขึ้นเลย ไอเข้าตาด้วยแสบตามากไม่รู้ปฏิกิริยาได้ก๊าซอะไร น่าจะทำก๊าซพิษได้เลย เหอๆๆๆๆๆ

แล้วก็เอาคัตเตอร์ตัด ขูด แต่ง ด้านนอก เอากระดาษทรายขัดให้เนียน


ลองพ่นสีดู ซื้อมาสีเดียว จากตอนเรือนไมล์นั่นละ เนียนใช้ได้ มั้ง ถ้าดูไกลๆ 555 

ระหว่างรอสีแห้ง ก็ไปจัดการกะปั้มดิสเบรคนิดหน่อย แบบลวกๆ เพราะถอดมันออกมาจากเครื่องไม่เป็นอ่ะ

ถอดครอบสวิชแฮนด์ซ้าย ยังมีวันผลิตอยู่เลย
แล้วก็ถอดชิ้นส่วน ดำๆ เอามาพ่นสีดำให้หมด พ่นไปพ่นมา พอประกอบกลับก็ได้สภาพแบบนี้เยย

! น้องเบส หัวดำไปซะแย้ววววววววววว !!!!



4 เมื่อเรือนไมล์ น้องเบสไม่สดใส

          ตั้งแต่ทำเข็มไมล์ ไหม่ สายฟ้าฟาด รอยแกร้าวของหน้าปัตย์เรือนไมล์ก็ทำให้ขุ่นใจ เพราะชื่นชมผลงานบ้าๆ บอๆ ของตัวเองได้ไม่เต็มที่

        ถ้ามีตังค์ ก็คงจะซื้อใหม่ทั้งชุดแน่ๆ (ถ้ามีขาย)
         หาในเน็ตแย้ว มีขายด้วย
         

              รวมส่งก็คง 5 ร้อยกว่า ม่ายไหวๆ จน

              แล้วน้องเบสก็ให้แรงบันดาลใจ
              ออกไปซื้อของกันดีกว่าาาาา
      
              

              ก็ได้ อคริลิคใส 2 มิล จากร้านเครื่องเขียน สีพ่นมอไซค์ สีดำด้าน จากร้านซ่อมมอไซค์ สกรูสั้น กับกระดาษทรายจากร้านขายของจิปาถะ รวมราคา 190 บาท จ้าาา 
              เครื่องมือ ทำงานกับช่างนิ มีเยอะอยู่แล้ว แต่ช่างจริงๆ มาเห็นคงปวดหัว เพราะการใช้เครื่องมือของผมกระมัง 5555
   
ขั้นแรก แงะเอาเรือนไมล์ ออกมา อีกแล้วววว จินตนาการ แล้วร่างแนวเจาะ เจาะมันเล้ยยยยย

             เอาหัวแร้งที่ไม่ใช้แล้ว ( ความจริงยังใช้ แต่ยอมเสีย เพราะมีหัวเปลี่ยน) ทิ่มแทงให้มันละลาย ถูไถมันไปเรื่อยๆ ผสมกับดมกลิ่นอันรัญจวนของพลาสติกใหม้ แหวะ
           
             เกือบครึ่ง ชม กว่าจะเสร็จ

               แล้วก็เอาคัดเตอร์ แต่งขอบ ถูตะไบ กระดาษทรายขัด พร้อมทั้ง เจาะรู เก็บงานให้เรียบร้อยยย
   

            เอาไปล้าง ซันไลค์ แล้วก็ พ่นสีซ้าาาาาา
           

         ระหว่างรอสีแห้ง มาจัดการแผ่นอคลิลิคกันดีกว่า อ่อ ความจริงต้อง เอากระจกครอบมาทาบวาดรูปบนอะคลิลิคก่อนเอาไปพ่นสีเน้อะ
          

          ไม่รู้จะเอาอะไรตัด เลย เหมือนเดิม หัวแร้งอันเดิม จิ้มๆๆๆๆๆ แต่เพื่อความเซฟ เลยเผื่อรอยตัดกว้างไปเกือบเซนต์ เอาคัตเตอร์กรีดกระดาษปิดทั้งสองข้าง ลอกออกเฉพาะแนวตัด เซพความใสเอาไว้

             ตัดยากกว่าเจาะเรือนไมล์อีก แต่ก็ต้องอดทน จนสำเร็จจนได้
             เอาตะไบแต่งขอบบบบ จนได้ขนาดที่ต้องการ เจาะรู แล้ว แท่น แทน แท๊นนนนน(ช่วงนี้ลืมถ่ายรูป55)

           ประกอบร่างงงงงง


              เทียบอันเก่า

                 ว่ะฮะๆๆๆๆๆๆ 

                 เข็มไมล์นั่นเอาไฮไลค์ขูดๆขีดๆ ดูไกลๆ สวย แต่ ดูไกล้ๆจะและเทะมากเลย ต้องหาทางแก้ใข

                 ขอบที่ปะอคิลิคใสตั้งใจจะใส่ซิลิโคนด้วย แต่ยังไม่ใส่ ตั้งใจจะแก้ปัญหาเรื่องสีเข็มไมล์ก่อน


! สีดำใช้ไปนิดเดียวเองอ่ะ !


           

3 รื้อใหญ่น้องเบส ครั้งแรก ตั้งใจแค่ล้าง แต่ว่าาา...เข็มไมล์ เข็มน้ำมัน มัน มัน...

         จากที่น้องเบสโสโครกมาก เลยไม่รู้ว่าสภาพภายในจริงๆ เป็นอย่างไร ภายในนี่หมายถึงภายในชุดสีนะ ถ้าเครื่องละ ไม่มีปัญญาแกะดูหรอก (แต่ถ้ามีเครื่องมือก็ไม่แน่ หุหุ)
       

         รถอะไรไม่รู้ น็อตเยอะแยะไปหมด จำไม่หวาดไหว
        

        แกะ  ตะกร้า ครอบอกหน้าก็หลุดมาด้วย เจอเนื้อใน ข้าว ขาวววววว ไปด้วยขี้ฝุ่น

                                     
       แกะครอบหัวออกด้วย เจอ แฮนด์ นั่นมันเหล็กเหรอว้าาาาา
         เรือนไมล์ สายไฟเต็มไปด้วยฝุ่นๆๆๆๆๆๆๆ

         เลยจัดการล้างๆๆๆๆๆๆ ทุกอย่าง สายไฟก็โดนล้างไปด้วย ช่างไฟมาเห็นคงบ่นอุบ (ความจริงกรูก็ช่างไฟนี่หว่า)

          
         หลังจากล้าง รอแห้ง ก็แอบดูสายไมล์นิด มันขาดจริงๆด้วย ก็เลยดึงทิ้งซะ หนักรถ ยังไม่มีตังซื้อ และ ยังไม่รู้จะหาซื้อได้ที่ไหน555
         
           เรือนไมล์ รื้ออกมาล้าง ปรากฎว่าาาา เข็มหักหมดเยย เพราะมันผุกรอบหมดแย้ว ทำไงดีๆๆๆๆๆๆๆ
           คิดอยู่นาน ไปทำงานวันนึงก็เจอนี่เข้าให้

           ปิ๊งป่อง

           มันคือเศษแผ่น แสตนเลส ที่ช่าง น่าจะพวกวางสายไฟเบอร์ออบติกทิ้งเอาไว้ ที่จริงมันเอาไว้รัดสาย รัดท่อวางสาย คล้ายๆกับเข็มขัดรัดสายหรือเคเบิลไทร์ มันบางพอที่จะใช้กรรไกรตัดได้ แต่ก็แข็งพอจะคงรูปได้พอที่เราต้องการเยยย เย้
            ว่าแล้วก็ ตัดๆๆๆๆ
           
            จนได้รูปที่ต้องการ และไม่ลืมทำติ่งสำหรับยึดกับแกนเข็มเดิมด้วย
               รูปนี้ลืมถ่ายตอนทำอันแรกสำเร็จไปอันนึงแล้ว ขั้นตอนเหมือนกันคือ

             เอาเข็มที่ตัด ดัดให้ได้รูป มาลนไฟ
                                         

          แล้วก็ปักติ่งที่ทำไว้เข้าไปกับแกนเดิมที่เป็นพลาสติกอ่ะแหละ อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ โอกาสท่านมีครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าพลาด จะเอามันออกลำบากแน่ โชคดีที่เก๋าพอ5555

           และแล้วก็ได้เข็มไมล์ สายฟ้าฟาด ชี้เบี้ยวเล็กน้อยแต่แก้ไม่ได้แล้ว555
        

! กระจกเรือนไมล์แม่งลาย เห็นเข็มไม่ชัดเลย แม่มมมม !

         

วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558

2 รักแรกพบ เป่าวะ น้องเบส อายุ 14 เอ๊าะๆ


          ส่วนหนึ่งของรูปในประกาศขาย ประกาศเค้าลบละ เหลือแต่รูปนี้ แต่รูปนี้ละที่ทำให้ตัดสินใจไปดู(เพราะไกล้บ้านส่วนหนึ่ง และเพราะมีทะเบียนภาษีไม่ขาดส่วนหนึ่ง ราคา ส่วนหนึ่ง)

          ทำไมถึงสนใจน่ะรึ ?   นี่เป็นแค่ทฤษฎีหนึ่งนะ

          ดู โสโครก ยังงี้แหละที่สนใจ รถราคาถูก ถ้าเป็นรถตลาด ส่วนใหญ่ต้องมีปัญหาอะไรสักอย่างถึงขาย และส่วนใหญ่ปัญหาเกิดจากการแต่ง การซ่อมที่ไม่รู้จะซ่อมยังไงแล้ว เมือผ่านการงัด การแต่ง การซ่อม เครื่องย่อมจะสะอาดสะอ้านแน่ แต่ เครื่องนี้กล้าประกาศขายทั้งที่เครื่องโสโครก และบอกด้วยว่าเครื่องยังติดง่าย และมีปัญหาสำลักตอนเร่ง ก็เลยเริ่มหาข้อมลว่า เหตุไดเครื่องมันจะสำลักกันได้ ก็พอจะได้ข้อมูลในทางเดียวกันว่า น่าจะเป็นระบบจ่ายน้ำมันรึไม่ก็ระบบไฟ มั้ง เครื่องภายในน่าจะโอ๊เคร มั้ง

          ดังนั้นใจฉันก็เลย โอ้เคร ด้วย เอาวะ วัดใจ

          พอไปดูตัวจริง มัน โสโครก กว่าในรูปประกาศขายอีก 55555

          แต่ก็เอา พร้อมเอกสารโอนลอย เพราะเริ่มถูกชะตาล่ะซิ

           ไม่ได้ถ่ายรูปเพราะไม่ได้คิดว่าจะเขียนบล็อคอ่ะ

          ตอนไปดู นั่งมอไซค์รับจ้างไปเพราะไม่รู้ทาง เสียค่ามอไซค์รับจ้างมากที่สุดในชีวิต 150 บาท ระยะทาง 10 กว่าโล ตอนกลับขี่กลับเลย วัดดวง ถ้าเครื่องไม่ดีคงเดี้ยงกลางทางแหงม 555
          พอถึงบ้าน ถึงถ่าย
        ถ่ายตอนจับน้องเบสแก้ผ้าซะด้วย น้องเบส โสโครก จริงๆ ผุ่นจับภายใน หนาเป็น มิล เป็นมิลลิเมตรจริงๆ นะไม่ได้โม้ สมกับอายุ 14 ย่าง 15 ปีของเธอ วันแรกก็แกะๆ ดูสภาพของภายใน ก็พบว่า

         - ใส้กรองน้องเบสไม่มี หม้อกรองมีแต่ฝ่น เลยล้างซะ เอาฟองน้ำล้างจานใส่แทนไปก่อน
         - คาบู น้องเบส เป็นอะไรที่พิสดาลมาก จากที่เคยวุ่นวายกับรถ 2 จังหวะเมื่อสักสิบปีที่แล้วมันแค่ชักสายเปิดฝาให้ลมผ่าน มีก็อกให้น้ำมันเข้าไปผสม แต่นี่น้องเบสมีสายอากาศอะไรไม่รู้ยั๊วเยี้ยไปหมด ดูเหมือนใช้ลมไปคุมก็อกน้ำมันอีกที เหมือนจะเป็นระบบประหยัดน้ำมันของเค้ามั้ง คาบูน้องเบสน่าจะเป็นแบบนี้
       
           การทำงานของคาบู น้องเบส ไอ้ตัวเปิดช่องตามแรงดูดลมจะขึ้นลงๆ ตามจังหวะดูดของเครื่อง เป็นเสียงแต๊กๆ ดังมาก เลยทำให้ไม่รู้ว่าแต๊กๆ มันมีแต๊กที่อื่นด้วยรึเปล่าอ่ะ
       
          - จุกขั้วหัวเทียนหลวมมากๆ อาจเป็นสาเหตุให้เครื่องสำลักๆก็ได้ ยังไม่ชัวร์

           ล้างๆ อะไรเท่าที่ล้างได้ แล้วประกอบกลับ ถ่ายน้ำมันเครื่อง ดำปี๋ แล้วใช้งานไปก่อน ยังไม่อยากทำไร ยังไม่ได้โอนเป็นชื่อเรา ยังไม่รู้สึกผูกพันเท่าไร

           อ่อพอล้างเสร็จ สตาร์ทเครื่อง ควันขาวฟุ้ง ตอนแรกนึกว่าจะพังซะละ ตอนหลังเพิ่งรู้ว่า หลังล้างรถส่วนใหญ่เป็นงี้ 555

          ถึงวันโอน รู้สึกตุ๊มๆต่อมๆ เพราะในเล่มทะเบียนเจ้าของเก่าไม่เซ็นไว้ แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี และถูกใจราคาประเมินมาก สูงกว่าที่ซื้อตั้งหลายพัน อิๆ


         ความจริงเรายังไม่มีใบขับขี่เบย แต่เพราะไม่มี เลยต้องทำตัวให้ถูกกฎไว้ก่อน กลับจากโอนก็ซื้อหมวกซ้าาา ต้องเอาที่มี มอก. ด้วยนะ(อยากได้ค่าโฆษนาจัง)

ทีนี่เมื่อนั่งจดๆ จ้องๆ มองตา ขี่กันไปมาเกือบ 20 โล ก็สรุปความผิดปกติ ความไม่สมบูรณ์ของน้องเบสได้ว่า
  1. ใส้กรองไม่มี เอาฟองน้ำแทนแล้ว
  2. ท่ออากาศจากหม้อกรองเข้าคาบูรั่ว
  3. หัวแตก(หน้ากากแตก)
  4. มอเตอร์สตาร์ทเสีย(แต่ก็ไม่จำเป็นเท่าไร)
  5. โซ่หย่อน
  6. หน้าปัดเรือนไมล์ร้าวลายยย
  7. เข็มไมล์หัก
  8. สายไมล์ขาด
  9. โช้คหน้าเด้งดึ๋ง คงไม่มีน้ำมัน
  10. เครื่องร้อนมากเวลาขี่ ไม่รู้ปกติเป่า
  11. สกปรกมากไม่รู้น้องหนิมกินตรงไหนรึเปล่า
    ทีเหลือโอเครมากสำหรับ มอไซค์ ราคาไม่ถึงหมื่น อายุ 14 กว่า วิ่งมาเท่าไรไม่รู้ ไมล์ขาดที่ 3 หมื่นกว่าโล

! หลงเสน่ห์ น้องเบสเข้าแล้วซิ !



1 เมื่อคนจน อยากได้มอไซค์สักคัน

มีเงินไม่ถึง หมื่น แต่อยากมีมอไซค์ใช้งาน จาทำไง


         มอไซค์ แผลงมาจากมอเตอร์ไซค์ เป็นคำใช้ทับศัพท์ คำว่า motorcycle ภาษาไทยเป็นทางการเรียกว่า จักรยานยนต์ เป็นคำผสม ระหว่าง จักรยาน พาหนะสองล้อที่ใช้แรงคนขับเคลื่อน กับ ยนต์ จริงๆมาจากภาษาอะไรไม่รู้ แต่พอเติม "ยนต์" กับอะไร ไอ้นั้นจะต้องมีแรงเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง เช่น หุ่นยนต์ รถยนต์ พอจักรยานมี ยนต์ ติดท้าย ก็กลายเป็น จักรยานที่มีแรงเคลื่อนที่ด้วยตัวเองได้ เอาง่ายๆ ก็รถสองล้อมีเครื่องแหละวะ โอ้ย หลุดประเด็นไปไกล
          ความจริงมอไซค์ไม่ต้องบรรยายให้มากความ คนไทยยุคนี้เกิดมาถ้าไม่รู้จักไม่บ้า ก็อยู่ในป่าดงเป็นทาร์ซานล่ะ คนไทยขี่มอไซค์ไม่รู้จำนวนแต่รู้ว่าเยอะมากจนทำให้บริษัทญี่ปุ่นสี่บริษัทรวยได้ละกัน รูปแบบมอไซค์แบ่งกันบ้านๆ ก็เห็นอยู่ 3 - 4 จำพวกมั้งลองลิสดูดีกว่า
          1. แม่บ้านมีบังลมแบบเกียร์ธรรมดา บางทีก็มีครัช หลังๆไม่เห็นมีเลยสงสัยขายไม่ค่อยออก55 ที่คุ้นเคยกันก็ เวบ ดรีม สแมช สปาค

          2.แม่บ้านแบบเกียร์ออโต้ อันนี้นิยมกันพอสมควร บิดกะเบรคไม่ไต้องคิดไรมากสะดวกดี ก็มีพวก คลิก ฟีโน สเตป

          3.กึ่งสปอร์ต เมื่อก่อนเรียกกันว่ารถกระเทย เมื่อก่อนมีเยอะรุ่นมาก ปัจจุบันน่าจะสูญพันธ์ไปแล้ว รุ่นสุดท้ายที่ยังมีเกลื่อนก็ sonic ท้ายตลาดจริงๆ น่าจะเป็น raider ต่อมาไม่เห็นมีบริษัทใหนผลิตอีกเยย อาจจะมีคล้ายๆ แบบ x-1 spark 135 แต่ก็มีบังลมกันหมด

          4.สปอร์ตเล็ก เริ่มนิยมกันไม่นานนี้  แบบ msx ksr z125 และนิยมมากในปัจจุบัน (หายแหลกราญ) ความจริงมันดูเป็นรถ เอ็นดูร่งเอ็นดูโร่ เน็กเก็ต อะไรใหญ่ๆ ย่อส่วนลงมา บางคนก็เลยเรียก Minibike ที่จัดให้มันสปอร์ต ก็มันดูสปอร์ตอ่ะ มันรถเล็กแต่ดูไม่เป็นแม่บ้านเท่าไรอ่ะ

         เมื่อก่อนสปอร์ตเล็กอาจต้องรวมพวก สองจังหวะ 150cc  KR TZ RGV NSR เมื่อก่อนเค้าเรียก รถผู้ชาย แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีละ

          5.สปอร์ตใหญ่ หรือบิ๊กไบค์ คันใหญ่ๆผมถือเป็นบิ๊กหมดล่ะรวมมันไปหมดตั้งแต่ 150cc เลยละกัน

          อ้าว กลายเป็น 5 อย่างซะงั้น
          อ่อ ลืม
          6.วิบากอ่ะ
           ทีนี้ พอมันมีแบบให้เลือกเยอะหยั่งงี้ พออยากได้มาใช้สักคัน ก็ต้องรู้ละว่าจะเลือกรถแบบใหนมาใช้งาน แล้วจะมอไซค์ ใช้ทำอะไรล่ะ

           อยากได้รถมอไซค์ ถูกกฎหมาย ใช้ในเมือง ออกทริปได้ด้วย 
  
           นั่นล่ะ
           
           รถมีให้เลือกเยอะแยะ สเปกแบบนี้ cbr ก็ดี สปาก135 ก็ได้ ksr ยิ่งเจ๋ง ออโตไม่อาไม่ชอบ
           แต่ ดูตังดิ
           <10000
           โอ้วววววววววววววววววววววววววววววววว
  
            จะเลือกอะไรได้เนี่ยยยยยย

            หาในเวบ ต่ำกว่าหมื่น ไม่เก่าจนเน่า ก็ใหม่ไม่มีทะเบียน ดูไปดูมา มี สองจังหวะรุ่นใหญ่เท่ๆแฮะ ดูในเวบยังมีคนเล่นอยู่ด้วย ตย. เช่น
            http://www.2strokeclub.com/
            ดูไปดูมาอีกที ส่วนใหญ่น่าจะพวกตังเหลือๆ เอาของเก่ามาปั้นให้ได้รถเดิมๆ มันก็น่าสนุกนะ

           แต่ว่า

           กลับไปดูที่งบประมาณ. อีกที
           <10000
           โอ้วววววววววววววววววววววววววววววววว

           นอกจากค่าซ่อมแล้ว ยังมีต้นทุนด้านกม. อีก เนื่องจาก กม.มลพิษไทยเข้มมาก ทำให้เครื่อง สองจังหวะ ที่ปล่อยมลพิษมหาศาล ต้องสูญพันธ์ไปจากสายการผลิตของ จตุรเทพมอไซค์ไทย รถเก่าๆ ถ้าจะต่อทะเบียนก็ต้องทำเครื่องให้ได้มาตรฐานที่ ขนส่งจะรับต่อได้ จะเอาแต่ชอบ แรง ขี่มันส์ เท่ห์ แต่กลายเป็นรถนอกกฎหมายอย่างพวกเด็กแว๊นซ์ ก็ไม่ไหว อายุเกินละ ยิ่งจะขี่ในเมือง ยิ่งยุ่งงง
         
            ทีนี้มาดูรถครอบครัวกันดีกว่า มือสองใช้งาน ,มือสองราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 20000 ต่ำกว่านั้นก็ เครื่องเน่า รึไม่ก็ไม่มีทะเบียนเข่นกัน
            ทางเลือกต่อไป คือ รถในตำนาน รุ่นที่ขึ้นชื่อว่าดี แต่เก่า น่าจะถูกกว่า แต่กับต้องต๊กกะใจ


              รถพวกนี้เสือกไปต้องดาต้องใจคนบางกลุ่มเอามาแต่ง เอามาเล่นปั้นราคากันจนสูง บางรุ่นเก่ามาก แต่มีเวบขายอะไหล่มากกว่ารถใหม่บางรุ่นอีก คันที่ราคาต่ำกว่าหมื่นส่วนใหญ่ เน่ามาก เหลือแต่ซาก รอคนเก่งเงินหนาเอาไปปั้นเท่านั้น เฮ้ออออออออ

              ถึงจะจนแต่ไม่อับจนวะ!! ยังมีอีกทางเลือกนึง คือ รถดีที่โลกลืม มันเป็นไง ล่ะ ความจริงไม่ได้คิดทางเลือกนี้ขึ้นมาเองปิ๊งปั๊งหรอก ไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น จุดประกายความคิดเกิดขึ้นมาจาก เห็นประกาศขายรถรุ่นที่ไม่รู้จักหลายคัน ในสภาพใช้งานได้ ในราคาถูก คันแรกที่เห็นคือ ยามาฮ่า เฟรช เลยเริ่มหาข้อมูล เลยได้เจอข้อมูลน่าสนใจในกระทู้พันทิพ (pantip) ที่คุยกันเรื่องรถรุ่นหนึ่ง ของ suZuki คือ viva
http://www.chotayninh.vn/threads/147488-can-mua-dan-ao-xe-suzuki-viva-mau-den.htmlรูปมาจากเวบเวียดนาม สงสัยขายที่นู่นด้วย



             http://pantip.com/topic/31380168

             สิ่งที่คิดขึ้นมาในหัว คือ มีรถรุ่นนี้ในไทยด้วยเหรอวะ เดิมทีรู้จักแต่รุ่นรถของ ฮอนด้า และคิดแต่จะซื้อรถ ค่ายนี้ มีแต่คนบอกซื้อมือสอง เอา ฮอน รึยามา ซูมันเครื่องเปราะ  แต่กลับยังมีรถรุ่นเก่าที่อายุเกิน 10 ปียังใช้ได้ นี่น่าสนใจมาก เลยดูข้อมูลต่อไปเกี่ยวกับ ซูๆ ก็ได้เห็นข้อมูลประมาณนี้

            http://pantip.com/topic/31048844

            เลยเริ่มอยากรู้ว่า มีรถรุ่นไหน ที่เป็นมาสเตอพีช แต่โลกลืมบ้างแล้วก็เจอข้อมูลนี้เข้า

           http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2007/07/V5631543/V5631543.html

ส่วนหนึ่ง ของ คห.20

    ก่อนที่จะเกิดสถานการณ์รณรงค์ให้ยุติผลิต 2 จังหวะซูซูกิก็รู้ตัวจึงส่ง Viva ใช้ตัวถังร่วมกับ รอยัล คริสตัล เท่าที่ทราบมาคือไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร+ปัญหาจุกจิกเรื่องต่างๆ
    แต่ไม่ยอมแพ้จึงส่งคู่แข่งฮอนด้า ดรีมคือ FD love รูปทรงแบบซูเปอร์คัพ คลาสสิค พัฒนาเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพจะว่าไปมันก็เหมือนเอา Royal Crystal มาใส่บอดี้ใหม่ที่มีการออกแบบคล้ายๆ RC love ตอนแรกออกรุ่นกระบังลมขาวก่อนภายหลังจึงออกบังลมสีสู้กัน แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จอีกล้มเหลวกว่าวีว่าอีก  ผมว่าตอนนี้คือจุดเปลี่ยนของซูซูกิในตลาดบังลมได้เลยครับ
             
ส่วนหนึ่งของ คห.48

     ซูซูกิ ไม่กล้าทำแบบแยมอะฮ่า และได้ใช้นโยบาย C&D ค่ายอื่นออกอะไรแล้วขายได้ ทางซูก็ทำตาม ฮอนด้าออกเวฟ100 เน้นตลาดล่าง ซูออก สแมช, ฮอนด้ามีเวฟ125 ตลาดบน ซู ออก เบส125, ฮอนด้าออก โซนิก ซู ออก เรดเดอร์125-150, แยมอะฮ่าออก x1 ซูออกรุ่นดิจิมอน (คาตาน่า) , พอตลาดออโต้โต แยมอะฮ่าออก มิโอ้ ซูออก สเตป เรียกได้ว่า ไม่ว่าค่ายไหนมีรถอยู่ในตลาดไหน ซูก็มีรถอยู่ในตลาดนั้นด้วย ซึ่งในหลักการตลาดแล้ว ยังไงก็ควรจะมีส่วนแบ่งอยู่บ้างไม่มากก็น้อย แต่ทำไมเกือบทุกตลาดที่ขายกันทั่วประเทศ (ยกเว้นภาคใต้ ซึ่งถ้าไม่มีส่วนนี้ช่วยด้วยแล้วละก็ ส่วนแบ่งการตลาดของซูนี่ไม่อยากคิดเลยครับ)

     แบรนด์รอยัลตี้ - มีพวกวินหลายคนตอนแรกใช้ซูกันเยอะ ทั้งพวก rc, สแมช, เบส110-125 ทุกคนบอกว่ารถดี แต่เมื่อถึงเวลาซ่อมบำรุงแล้วเอาไปคุยกันกับเพื่อนๆ ในกลุ่มที่วินเปรียบเทียบกันแล้ว ภายหลังคนที่ขับซูทุกคนได้เลือกไปใช้ เวฟ100, โซนิก, มิโอ้ ขับวินกันเป็นแถว 

คห. 72-78 ยาวมากไปอ่านเองละกัน

         ทำให้พอเดาๆ เกี่ยวกับ รถของsuzuki ในยุคเริม 4 จังหวะว่า
         มี fd110 love viva vvd ออกมาเป็นทรง RC แล้วถึงมี Best 125 110 เป็นทรงสมัยใหม่ ตลาดบน แล้วก็ออก smash ราคาถูก ออกมาตี wave สแมชเลยขายดีทำมาจนปัจจุบัน แตรุ่นอื่นๆ สาบสูญไปเพราะอะไหล่หายาก ที่ต้องเดาเพราะข้อมูลมัน โคตร หายากกกกกกกกก 
  
          แต่มีประโยคนึงโดนใจมาก

          คนดีขี่ฮอนด้า คนบ้าขี่ซู

         ประจวบเหมาะกับ ในเวบขายของ มีคนขาย best 110 ราคาถูก และราคาเฉลี่ยไกล้ๆ กันที่หลักพันกลางถึงปลาย ในสถาพที่ใช้งานได้ ทะเบียนไม่ขาด อย่างนี้ต้องเสี่ยงแล้ว

! และนั่นคือจุดเริ่มต้น !